วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ซีรี่ย์เกาหลี The Legend


เรื่องย่อ ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ The Legend นับพันปีที่ผ่านมา ชาวโกคูรยอต่างเชื่อว่าพวกตนสืบเชื้อสายมาจากจูซินมหาราช จนกระทั่งทุกวันนี้ทุกคนต่างรอคอยคำมั่นสัญญาที่จูซินมหาราชทรงให้ไว้ และแล้ววันหนึ่ง...... ท้องฟ้าในยามค่ำคืนปรากฏดวงดาวแห่งราชาสุกสกาว ภายใต้แสงสว่างของดวงดาว มหาราชได้ถือประสูติขึ้นมา ท่ามกลางการรอคอยดวงดาวแห่งราชานับพันปี คืนนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการแย่งชิงอำนาจ ในคืนนั้นทายาทของมหาราชได้ถือประสูติขึ้นมา นับตั้งแต่อดีตกาลจนถึงพระเจ้าจูมง ทายาทสกุลยอนซึ่งสืบสายเลือดกษัตริย์ได้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยมีชื่อว่ายอนโฮเก ลูกชายของโอจีจีพระอนุชาของพระราชาก็ได้ถือกำเนิดในคืนนี้เช่นเดียวกัน แต่โอจีจีกลับให้ทุกคนรู้ว่าลูกชายของตนได้ถือกำเนิดสี่วันหลังจากคืนที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาว ทารกนี้มีชื่อว่าทัมต๊อก บางทีอาจไม่ถือเป็นเรื่องเลวร้ายเสียทีเดียว.... เนื่องจากฐานะโอจีจี ไม่ได้โดดเด่นสักเท่าใดนัก อีกทั้งเหินห่างกับชนชั้นสูง โอจีจีไปตั้งรกราก ณ สถานที่ที่ไกลจากวังหลวงมาก โดยเพาะปลูกเลี้ยงสัตว์ยังชีพ โอจีจีจงใจปกปิดฐานะที่แท้จริงเอาไว้ด้วยไม่อยากให้ผู้ใดล่วงรู้ว่าทัมต๊อกและยอนโฮแกถือกำเนิดในวันเดียวกัน ถ้าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปเชื่อว่าจะต้องนำมาซึ่งภัยพิบัติอย่างแน่นอน เนื่องจากหนึ่งแผ่นดินจะมีพระราชาสองพระองค์ไม่ได้ พระราชาผู้ปกครองแผ่นดินทรงไม่มีทายาท ยอนฮูหยินพระขนิษฐาของพระองค์ซึ่งเป็นแม่ของยอนโฮแกจึงทูลเสนอให้ยอนโฮแกเป็นองค์รัชทายาท แต่กลับถูกปฏิเสธ โอจีจี พระอนุชาของพระราชาดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาท ก่อนที่พระราชาสวรรคต พระองค์ทรงมีรับสั่งเรียกประชุมเชื้อพระวงศ์และขุนนางน้อยใหญ่ ทำให้ทุกคนได้พบกับโอจีจี และทัมต๊อกลูกชายซึ่งตั้งรกรากยังสถานที่ไกลแสนไกลอีกครั้ง ในเวลานี้เองทุกคนถึงรู้ว่าพระราชาทรงสถาปนาโอจีจี เป็นองค์รัชทายาท พระราชาพระองค์ใหม่เถลิงราชย์ในพระนามพระเจ้ายังวัง แต่พระองค์กลับทรงไม่ได้รับความไว้วางใจจากชนชั้นสูง นอกจากนี้ยังต้องรับศึกเหนือใต้ที่ข้าศึกเข้ามารุกราน พระเจ้ายังวังทรงตั้งพระทัยว่าพระองค์เพียงรักษาบัลลังก์ไว้ชั่วคราวเท่านั้น พระราชาที่แท้จริงคือทัมต๊อก สิ่งที่พระองค์ทรงต้องทำคือคุ้มครองทัมต๊อกให้ปลอดภัยจนกว่าจะถึงวันที่ทัมต๊อกขึ้นครองราชย์ ด้วยเหตุนี้พระเจ้ายังวังจึงทรงเข้มงวดต่อทัมต๊อกเป็นพิเศษ เนื่องจากทัมต๊อกเฉลียวฉลาด รวมทั้งมีความสามารถที่โดดเด่น ทัมต๊อกจะแสดงสิ่งเหล่านี้ให้ใครรู้ไม่ได้เป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถของทัมต๊อกที่เหนือกว่ายอนโฮแก พระเจ้ายังวังทรงจำกัดบริเวณทัมต๊อก ถึงแม้ว่าทัมต๊อกปฏิบัติตามความประสงค์ของพระบิดา ในใจกลับไม่เข้าใจว่าเหตุใดพระเจ้ายังวังจึงทรงเข้มงวดกับตนเช่นนี้ นอกจากนี้พระเจ้ายังวังยังทรงห้ามไม่ให้ทัมต๊อกคบหาเพื่อนที่หอบัณฑิต รวมทั้งฝึกวรยุทธ พระองค์ทรงมีรับสั่งว่าทัมต๊อกสุขภาพไม่แข็งแรง พระองค์จึงทรงทำเช่นนี้ แต่ทัมต๊อกรู้แก่ใจดีว่าตนแข็งแรงมาก ดังนั้นจึงแอบศึกษาวรยุทธ แอบเข้าไปในหอหนังสือเพื่อศึกษาหาความรู้ วันหนึ่ง ขณะที่ทัมต๊อกแอบเข้าไปอ่านหนังสือที่หอหนังสือ ทัมต๊อกได้พบกับคีฮาธิดาเทพแห่งพรรคอัคคี เข้าโดยบังเอิญ คีฮาไม่มีความทรงจำเมื่อครั้งเป็นเด็ก เมื่ออายุได้ห้าขวบถูกถูกพรรคอัคคี จับตัวไป นับแต่นั้นเป็นต้นมาบนไหล่ของนางก็มีรอยสักมาโดยตลอด ความทรงจำของนางสูญสิ้น แม้แต่ความทรงจำที่พรรคอัคคีฆ่าพ่อแม่ของนางก็สูญสิ้นไปด้วย นางจำได้แต่เพียงมีน้องสาวเท่านั้น แต่ก็หายสาบสูญไป คีฮามีฐานะสูงศักดิ์ในพรรคอัคคี แม้แต่ผู้เฒ่าในพรรคยังให้ความเคารพยำเกรงนาง สำหรับคนพรรคอัคคี คีฮาเป็นธิดาอัคคีที่ลงมาจุติตามตำนาน คืนที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาว ได้มีหงส์ไฟปรากฏขึ้นที่บ้านสกุลเฮในเมืองแพกเจ พรรคอัคคีซึ่งรอคอยเหตุการณ์นี้อุบัติขึ้นนานนับพันปีต่างพากันมาที่บ้านสกุลฮุ่ย ทุกคนพบว่าเด็กน้อยอายุเพียงห้าขวบสามารถใช้อำนาจหยกแดงสะกดเพลิงไม่ให้ทำร้ายนางเอง ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงปักใจเชื่อว่าเด็กน้อยคนนี้ก็คือธิดาอัคคีอย่างแน่นอน พรรคอัคคีพาเด็กน้อยพร้อมด้วยยกแดงกลับไปที่พรรคอัคคี ทำให้ทุกคนมีความหวังว่าชัยชนะอยู่เบื้องหน้า แต่หลังจากเหตุการณ์วันนั้น คีฮาทำได้แต่เพียงใช้หยกแดงจุดเทียนไข หรือไม่ก็จุดฟืนเท่านั้น ซึ่งไม่เหมือนแรกเริ่มที่สามารถสำแดงอิทธิฤทธิ์ ด้วยเรื่องนี้ทำให้ผู้เฒ่าของพรรคเชื่อว่าเมื่อครั้งที่มหาเทพสะกดของวิเศษสามสิ่งไว้นั้น อิทธิฤทธิ์ของหงส์ไฟก็สูญสลายไปด้วย เว้นแต่จะทำลายมนต์สะกด ธิดาอัคคีก็จะสำแดงอิทธิฤทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง ผู้เฒ่าพรรคอัคคีคิดว่าของวิเศษอีกสามสิ่งที่ถูกสะกดไว้จะต้องตกเป็นของพรรคด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อคีฮาอายุได้สิบห้าปีก็ต้องติดตามบรรดาผู้เฒ่าพรรคไปที่แท่นบูชาฟ้าดิน แท่นบูชาฟ้าดินได้มอบชีวิตใหม่ให้คีฮา โดยมีภารกิจสำคัญสองอย่างที่นางต้องทำ ภารกิจแรกต้องจับกุมตัวยอนโฮแกซึ่งถือกำเนิดในคืนที่ดวงดาวแห่งราชาสุกสกาวมาให้ได้การทำลายมนต์สะกดนั้นต้องใช้เลือดของมหาราชา ภารกิจที่สองคือพำนักอยู่ที่แท่นบูชาฟ้าดินเพื่อรอรับฟังข่าวคราวของวิเศษ คีฮาซึ่งถูกยกให้เป็นธิดาอัคคีนั้น สำหรับนางแล้วการมีชีวิตอยู่ก็เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของพรรคอัคคี ภารกิจสองอย่างเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของนาง อย่างน้อยที่สุด ก่อนที่จะได้พบกับทัมต๊อก นางก็คิดเช่นนี้มาโดยตลอด ทัมต๊อกและคีฮา ทั้งสองซึ่งอ้างว้างโดดเดี่ยวได้พบกันในที่สุด ทัมต๊อกต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพระบิดาอย่างเคร่งครัด ทำให้ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง ส่วนคีฮานั้นได้รับแรงกดดันจากภารกิจที่ได้รับมอบหมายที่ต้องเป็นธิดาอัคคี ทำให้นางไม่สามารถดำรงชีวิตตามที่นางต้องการ ในเวลานี้นางถูกส่งมายังดินแดนข้าศึก นางจะต้องเป็นสายรายงานความเคลื่อนไหว ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงเห็นใจกันและกันเป็นอย่างดี ความจริงแล้วสำหรับคีฮานั้น ทัมต๊อกไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของนางแต่อย่างใด คนที่นางต้องให้ความสำคัญคือยอนโฮแกต่างหากที่นางต้องนำข่าวคราวไปรายงาน แต่ไม่แน่ว่าทัมต๊อกอาจเป็นคนที่ขัดขวางภารกิจของนางก็เป็นได้ แต่เมื่อคีฮาคบหากับทัมต๊อกได้ระยะหนึ่ง ความรู้สึกที่นางมีต่อทัมต๊อกก็เปลี่ยนไป นางรู้สึกว่าช่วงเวลาที่อยู่กับทัมต๊อกเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุด บรรดาผู้เฒ่าของพรรคอัคคีต่างพากันย้ำเตือนคีฮาอย่าได้ใจอ่อนเป็นอันขาด สำหรับทัมต๊อก ทัมต๊อกรู้สึกว่าคีฮาเป็นคนสำคัญ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทัมต๊อกซึ่งสูญเสียแม่ตั้งแต่เล็กนั้น คีฮาเป็นเหมือนแม่ เป็นเหมือนพี่สาวที่มอบความรักความอบอุ่นที่ตนไม่เคยได้รับจากพ่อ ทุกคืนขณะที่ฝึกวรยุทธ คีฮาก็เป็นเหมือนเพื่อนที่อยู่เคียงข้าง กาลเวลาผ่านไป ทัมต๊อกและคีฮาก็รักกัน ทัมต๊อกหลบหนีออกจากวังหลวงราวกับนักโทษที่แหกคุกออกมา ทัมต๊อกชอบแต่งตัวเป็นชาวบ้านเดินไปตามท้องถนน โดยสามารถรับฟังเรื่องราวต่างๆมากมาย ต่อมา ทัมต๊อกก็ได้พบกับซูจีนี ซูจีนีเป็นน้องสาวของคีฮา ในวันที่สกุลเฮถูกพรรคอัคคีทำลาย แม่ได้มอบหัวใจของหงส์ไฟให้คีฮา จากนั้นก็กำชับให้คีฮาดูแลซูจีนีให้ดี ขณะที่เทพแห่งความตายมาเอาชีวิตของเด็กทั้งสองนั้น หัวใจของหงส์ไฟก็สำแดงอิทธิฤทธิ์คุ้มครองสองพี่น้องเอาไว้ พรรคอัคคีไม่พบซูจีนีซึ่งซ่อนตัวอยู่ในถังข้าว ดังนั้นจึงพาแต่คีฮาและหงส์ไฟกลับไปเท่านั้น พรรคอัคคีหารู้ไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วคนที่ทำให้หงส์ไฟสำแดงอิทธิฤทธิ์คือคีฮาหรือซูจีนีกันแน่ เนื่องจากทั้งสองเป็นลูกสาวบ้านสกุลเฮด้วยกันทั้งคู่ คนที่พบซูจีนีที่ซ่อนตัวอยู่ในถังข้าวในคืนนั้นก็คือยอนโก ในเวลานั้นยอนโกมีอายุครบสิบห้าปี เมื่อซูจีนีพบเห็นยอนโก นางก็ยิ้มให้ยอนโก บรรดาผู้เฒ่าของหมู่บ้านเมื่อพบเห็นซูจีนี เนื่องจากหงส์ดำเป็นอัปมงคล ทำให้ไม่มีใครกล้าชุบเลี้ยงซูจีนีเอาไว้ มีเพียงยอนโกเท่านั้นที่เชื่อว่าซูจีนีเป็นหงส์ไฟ ไม่ใช่หงส์ดำ ด้วยเหตุนี้ ยอนโกจึงอุ้มซูจีนีซึ่งอายุไม่ถึงขวบขอร้องให้บรรดาผู้เฒ่าชุบเลี้ยงนางไว้ บรรดาผู้เฒ่าไม่อยากฆ่าเด็กบริสุทธิ์ ดังนั้นจึงตัดสินใจชุบเลี้ยงซูจีนีเอาไว้ สำหรับทุกคนแล้วต่างหวาดกลัวทายาทของหงส์ดำด้วยกันทั้งนั้น หงส์ไฟซึ่งกลับมาจุติพร้อมกับมหาราชานั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นไปตามตำนานหรือไม่ หากเป็นไปตามตำนาน เมื่อใดที่โกรธแค้นขึ้นมาก็จะกลายเป็นหงส์ดำทำลายล้างบ้านเมืองหรือไม่ โลกใบนี้จะลุกเป็นไฟอีกครั้งหรือไม่ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงก็ควรจะรีบขจัดภัยพิบัตินั้นโดยเร็วที่สุด แต่ยอนโกกลับคัดค้านความคิดเห็นนี้มาโดยตลอด คืนนั้น ผู้เฒ่าเตือนยอนโกซึ่งอุ้มซูจีนีว่านับแต่นี้เป็นต้นไป ขอให้ดูแลเด็กคนนี้ให้ดี ถ้าหากวันใดยอนโกพบว่าซูจีนีเป็นหงส์ดำก็ขอให้ยอนโกกำจัดนางทันที ซูจีนีเป็นผู้หญิงคนเดียวของหมู่บ้าน นางเคารพนับถือยอนโกเป็นอาจารย์ นางถอดอุปนิสัยของอาจารย์มาจนหมดสิ้น นางเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เติบโตในหมู่บ้าน ทำให้อุปนิสัยนางไม่เหมือนผู้หญิง สิ่งที่ผู้ชายทำได้ นางทำได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น การพนัน ลักขโมย ยิงธนู วรยุทธ วันหนึ่ง ก่อนที่ผู้เฒ่าจะสิ้นใจได้เรียกชาวบ้านมาชุมนุมกัน ผู้เฒ่าได้มอบพลองวิเศษให้ยอนมูเพื่อดำรงตำแหน่งผู้นำหมู่บ้าน ทันใดนั้นเอง พลองวิเศษก็ลอยขึ้นฟ้า หมุนอยู่หลายรอบ จากนั้นก็ตกลงตรงหน้าผู้นำคนใหม่ ..... ยอนโก ผู้นำคนใหม่ของหมู่บ้านได้ถูกเลือกสรรแล้ว ทัมต๊อก, คีฮา, ซูจีนีและยอนโฮแกต่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น